บทที่ 4การใช้สีชอล์คผสมกับเทคนิคอื่น

จุดประสงค์
1.ผู้เรียนต้องรู้จักเทคนิคการระบาย
2.ผู้เรียนต้องรู้การระบายยังไง
   
การใช้สีชอล์คผสมกับเทคนิคอื่น

มีเทคนิคที่น่าสนใจดังนี้

1. ใช่ถ่านซาร์โตลวาดเส้นก่อนแล้วเน้นให้ภาพสว่างขึ้นด้วยสีชอล์ค นับเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
2. ใช้สีฝุ่นกับไข่ขาวละลายให้เข้ากันแล้วอุ่นให้ร้อน นำมาทาบบนผ้าใบ สีจะซึมเข้าไปในร่องทอผ้า จาก        นั้นใช้สีชอล์คปาดทับผิวหน้า แต่งให้เป็นรูปตามที่ต้องการ
3. ใช้สีน้ำมันละลายกับน้ำมันสน ทาลงบนแผ่นไม้ แล้วใช้สีชอล์คระบายทับข้างบ
4. เมื่อวาดรูปด้วยสีชอล์คเสร็จแล้วให้พ่นไอน้ำเดือดลงไปบนผิดของงานนั้น สีชอล์คจะ
กลายสภาพเป็นสีแฉะ ๆ ให้ใช้พู่กันป้ายระบายลงไปจะได้เทคนิคการใช้สีชอล์คด้วยวิธีระบายคนิคอื่น

การพ่นเคลือบภาพ ( Fixing Pastels )

    หลังจากที่วาดภาพด้วยสีชอล์คเสร็จแล้ว ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายแผ่นกระดาษออกจากแผ่น
รองเขียน ให้เคาะแผ่นกระดาษเพื่อให้ฝุ่นผงของสีที่ตกค้างอยู่หลุดร่วงไป และอาจจะใช้น้ำยา
เคลือบภาพ ( Fixative ) พ่นป้องกันการเสียหายของภาพ น้ำยาเคลือบสำหรับภาพสีชอล์คหาซื้อ
ได้ง่าย มีขายตามร้านอุปกรณ์เครื่องเขียนทั่วไป จุดมุ่งหมายของการใช้น้ำยาเคลือบภาพคือ
ต้องการปิดกั้นเนื้อสีชอล์คไว้ไม่ให้เกิดการขูดขีดข่วนหรือถู-ไปมา แต่ก็มีนักเขียนภาพหลายคน
ที่นิยมเก็บภาพไว้เฉย ๆ โดยรักษาผิดหน้าของงานไว้อย่างดีไม่ให้อะไรมาถูก เพราะน้ำยา
เคลือบภาพมีผลทำให้ความสดใสของภาพลดลงไป ภาพสีชอล์คที่ไม่ได้พ่นน้ำยาเคลือบนึ้ควรจะ
เก็บใส่กรอบแขวนไว้ให้เรียบร้อย
    วิธีการฉีดพ้นน้ำยากเคลือบจะต้องให้ห่างจากผลงานอย่างน้อย 1 ฟุต มิฉะนั้นจะกลาย
เป็นหยดน้ำเหนียว ๆ ไหลย้อยเป็นคราบบนผลงาน ควรฉีดพ่นจากด้านซ้ายมือไปด้านขวามือ
โดยเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ และสม่ำเสมอเมื่อสุดขอบของผลงานแล้วกลับมาพ่นจากด้านซ้ายมือใหม่อีก
จนกว่าจะเคลือบหมดทั้งภาพ
บางครั้งจะพบว่าเมื่อพ่นน้ำยาเคลือบแล้ว หลังจากนั้นไม่นายก็เกิดราหรือผ้าขึ้นเป็นจุด ๆ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดราขึ้นคือ ใช้ฟอร์มาลีน ( Formalin ) 10% ผสมกับน้ำทาให้ทั่วแผ่นกระดาษ
หรือผ้าใบก่อนที่จะลงมือเขียน เมื่อเขียนเสร็จแล้ว อาจจะมีการพ่นเคลือบด้านหลังของภาพด้วย
เพื่อป้องกันความชื้น
AE 223

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น